การดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ป้องกันไฟดูด หน้าฝน ป้องกันไฟดูด หน้าฝน มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในหน้าฝนเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นบริเวณที่มีความชื้นมาก เช่น บริเวณบ่อปลา ปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า ตู้กดน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น ตัวอย่างเช่น หากไฟฟ้ารั่ว โดยไม่ติดตั้งสายดิน และผู้ใช้งานไม่สวมใส่รองเท้า หรือมีเสื้อผ้าปกป้อง แล้วบังเอิญไป สัมผัสอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยไม่ตั้งใจ อาจทำให้กระแสไฟฟ้าไหลครบวงจร โดยไหลผ่านตัวคนลงสู่พื้น ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ และทำให้เสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยนะครับ   ดังนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้า ควรติดตั้งสายดิน! อันตราย จากการใช้ไฟฟ้า สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และ ปั๊มน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ต้องทำงานอยู่กับน้ำตลอดเวลา ดังนั้น การติดตั้งสายดิน มีไว้เพื่อเสริมความปลอดภัย ในการใช้ไฟฟ้า ในกรณีที่เกิดไฟรั่วลงบนโครงเครื่องใช้ไฟฟ้า กระแสไฟที่รั่วออกมาจะใช้สายดิน เป็นเส้นทางในการไหลลงดิน แทนที่จะไหลผ่าน ร่างกายของมนุษย์ ในกรณีที่เผลอไปสัมผัส และสายดินไม่เพียงแค่ ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกไฟฟ้าดูดเท่านั้น บางกรณีสายดินยังมีส่วนช่วย จัดการกับสัญญาณรบกวน ได้อีกด้วย ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทที่ต้องมีสายดิน ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทที่ต้องมีสายดิน เราจะเรียก เครื่องใช้ไฟฟ้า เหล่านี้ว่าเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภท 1 หมายถึง เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์ ติดตั้งทางไฟฟ้า ที่มีโครง หรือ เปลือกหุ้มเป็นโลหะ ซึ่งบุคคล มีโอกาสสัมผัสได้ต้องมีสายดิน เช่น ตู้เย็น , เตารีด , เครื่องซักผ้า , หม้อหุงข้าว , เครื่องปรับอากาศ , เตาไมโครเวฟ , กระทะไฟฟ้า , กระติกน้ำร้อน , เครื่องทำน้ำร้อน หรือน้ำอุ่น , เครื่องปิ้งขนมปัง ปั๊มน้ำทุกประเภท รวมถึงเครื่องมือช่างบางชนิด เป็นต้น เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีความเสี่ยงสูง ควรที่จะ ติดตั้งสายดิน ป้องกันไฟดูด เมื่อมีกระแสไฟฟ้ารั่วแทนที่จะวิ่งไปสู่คน กระแสไฟก็จะวิ่งลงดินไปเลย สายดินมีความต้านทาน น้อยกว่าเรา กระแสไฟฟ้า มักจะวิ่งไปในสิ่งที่ ที่มีความต้านทานน้อยกว่า สายดินที่มีความใหญ่จะยิ่งดี ถ้าติดตั้งสายดิน ความลึกต้องไม่ต่ำกว่า 2 เมตร ดินตรงนั้น ต้องมีความต้านทานต่ำด้วย ถ้าดินตรงนั้น มีความต้านทานสูง ก็ควรปักลึกลงไปอีก หรือมีทางแก้คือ ต้องโรยด่างบริเวณที่จะปักสายดิน เพื่อเพิ่มความต้านทานของดิน วิธีป้องกัน ที่ดีที่สุด ก่อนหน้าฝน ควรตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า ภายในบ้าน และ สายไฟ หากท่านใด อาศัยอยู่บ้านเก่า กว่า 10 ปี ขึ้นไป อุปกรณ์เหล่านี้ มีอายุการใช้งานนาน ฉนวนก็มักเสื่อมสภาพ ตามกาลเวลา ส่วนบ้านที่มี การติดตั้งปั๊มน้ำ ถ้าปลั๊กเสียบอยู่ต่ำ ยิ่งจะมีความเสี่ยงมาก หากพื้นบริเวณดังกล่าวเปียก ก็อาจเกิดไฟดูดได้ ขณะเดียวกัน เต้าเสียบภายในบ้าน […]

ไฟฟ้ารั่ว อันตรายที่เกิดขึ้นได้ ตอนน้ำท่วมฉับพลัน แล้วต้องทำอย่างไร หากเจอปัญหาเหล่านี้ อันดับแรกให้รีบสับสวิตช์ลง เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้ารั่ว การที่จะพิสูจน์ว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่นั้น ห้ามเอาหน้ามือสัมผัส เพราะโดยธรรมชาติของคนเมื่อโดนไฟฟ้าดูดก็จะกำมือลง ร่างกายจะหดตัวกำแน่น ทางที่ดีควรใช้หลังมือสัมผัส อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลังโดนน้ำท่วม ถ้าจะนำมาใช้ควรจะตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าอยู่ในสภาพที่ยังใช้การได้อยู่หรือไม่ สิ่งแรกต้องทำให้แห้งก่อนที่จะเสียบปลั๊ก หากไม่แน่ใจควรให้ช่างผู้ชำนาญมาตรวจสอบก่อน แต่ถ้าอุปกรณ์เหล่านั้นเกิดความเสียหายมากก็ไม่ควรเสี่ยงที่จะนำมาใช้งาน วิธีป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดไฟฟ้าดูด หากจะเสียบปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ต้องมั่นใจว่าร่างกายแห้งสนิทไม่เปียกชื้น บริเวณเต้ารับควรดูแลรักษาให้แห้งอยู่เสมอ หากไม่แน่ใจก่อนเสียบปลั๊กก็ควรสวมรองเท้า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆด้วยความระมัดระวัง และไม่ประมาท ก่อนเกิดเหตุ ควรมีการป้องกันไม่ไปสัมผัสกับกระแสไฟฟ้าที่รั่วและห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่โดนน้ำท่วมมาแล้ว ถ้าบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อไฟฟ้ารั่วหรือมีโอกาสเกิดไฟรั่วได้ง่ายควรติดตัวเบรกเกอร์ป้องกันไว้ก่อน ระหว่างที่เกิดเหตุบุคคลที่มาช่วย ไฟฟ้ารั่ว ไม่ควรจะไปสัมผัสร่างกายผู้เคราะห์ร้ายโดยตรง ควรหาฉนวน เชือกแห้ง เสื้อแห้ง ๆ ดึง หรือ ผลักออกไป และสิ่งสำคัญควรรู้จักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เหมาะสม ไฟฟ้ารั่ว อันตรายเป็นอย่างมาก หากไฟฟ้ารั่ว กรณีเกิดน้ำท่วมหรือน้ำท่วมขัง ยิ่งอันตรายอย่างยิ่ง สิ่งที่ควรทำเพื่อความปลอดภัยในชีวิต มีดังนี้ ก่อนน้ำท่วม เข้าภายในบ้านหรือบริเวณบ้าน ให้รีบขนย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้า และสิ่งของจำเป็นไว้ที่สูง หรือที่ปลอดภัยน้ำท่วมไม่ถึง กรณีเป็นบ้านสองชั้น และมีสวิตช์แยกแต่ละชั้น หากน้ำกำลังจะท่วมชั้นล่าง ให้ปลดสวิตช์ตัดกระแสไฟฟ้าเฉพาะชั้นล่าง กรณีน้ำท่วมขัง เป็นเวลานาน และมีความจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในบ้าน ให้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชั้นบน โดยให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือช่างไฟฟ้าที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านระบบไฟฟ้าปลดสวิตช์ที่ชั้นล่าง ให้เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือช่างไฟฟ้า เพื่อแยกวงจรชั้นบนและชั้นล่าง กรณีบ้านชั้นเดียว ให้งดใช้ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด งดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด รวมถึงห้ามเปิดปิดสวิตช์ไฟด้านใน และด้านนอกอาคารที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะตัวเปียกหรือยืนแช่น้ำ แม้ว่าอุปกรณ์เหล่านั้น อาจอยู่เหนือระดับน้ำ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ปลั๊กไฟที่น้ำท่วมห้ามใช้งานเด็ดขาด ควรอยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า หรือระบบจำหน่ายในพื้นที่น้ำท่วม อย่างน้อย 2-3 เมตร เพื่อความปลอดภัย หากพบเห็นสายไฟฟ้าขาด หรือเสาไฟฟ้าล้ม หรือสายไฟฟ้าขาดแช่น้ำ อย่าเข้าใกล้หรือสัมผัส ให้รีบแจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในพื้นที่หรือสายด่วน PEA โทร.1129 เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการแก้ไข พบผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูด อย่าใช้มือเปล่าแตะต้องตัวผู้ที่ติดอยู่กับกระแสไฟฟ้า หรือตัวนำที่เป็นเหตุ ให้เกิดอันตรายเป็นอันขาด เพื่อป้องกันมิให้ถูกกระแสไฟฟ้าดูด จนได้รับอันตรายไปด้วย ใช้วัตถุที่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า เช่น ผ้า ไม้แห้ง เชือกแห้ง สายยางหรือพลาสติกที่แห้งสนิท ถุงมือยางหรือผ้าแห้งพันมือให้หนา แล้วผลัก หรือฉุดตัวผู้ประสบอันตราย ให้หลุดออกมาโดยเร็ว หรือใช้ผ้าคล้อง หรือให้ผู้มีความรู้ด้านไฟฟ้าปลดสวิตช์ จากนั้นปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาล หากเป็นสายไฟฟ้าแรงสูง ให้หลีกเลี่ยง และรีบแจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในพื้นที่หรือสายด่วน ความแตกต่างของ ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต อย่างแรก ไฟรั่ว ไฟดูด เป็นไฟที่รั่วออกจากสายไฟหรือโครงโลหะของอุปกรณ์ที่มีความชำรุดแล้วดูดเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งต่างจากไฟช็อต หรือที่เรียกว่า ไฟฟ้าลัดวงจร ที่มีสาเหตุจากตัวนำทองแดงภายในฉนวนของสายไฟมีการแตะถึงกัน ซึ่งกระแสไฟฟ้าลัดวงจรนั้นจะช็อตไหลลัดไม่ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยมีความรุนแรงและมีปริมาณกระแสที่สูงมาก เป็นเหตุให้เกิดอัคคีภัยได้ เบรกเกอร์หรือฟิวส์จะเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่ใช้ตัดไฟฟ้าลัดวงจรที่สูงเกินค่านั้นออกจากวงจรเพื่อความปลอดภัย ไฟฟ้ารั่ว ช่วงฝนตก อันตรายมาก หากฝนตกหนักจนเกิดเหตุน้ำท่วม อาจนำมาสู่กระแสไฟฟ้าขัดข้องตามบ้านเรือน แล้วจะสามารถใช้ไฟต่อได้ไหม ควรทำอย่างไรให้ปลอดภัย ป้องกันกระแสไฟฟ้าขัดข้อง เตรียมรับมือก่อนน้ำท่วม หากพิจารณาแล้วว่ามีโอกาสที่น้ำจะท่วมเข้าบ้าน ให้เตรียมป้องกันกระแสไฟฟ้าขัดข้องด้วยการขนย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ไปไว้ที่ปลอดภัยหรือที่สูงที่น้ำจะท่วมไม่ถึงเสียก่อน รวมถึงอย่าลืมปิดเมนสวิตช์ในกรณีที่จะอพยพไปอยู่ที่อื่น ขณะเผชิญน้ำท่วมขัง ควรทำอย่างไรไม่ให้เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง หากเป็นบ้านชั้นเดียว งดใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าเด็ดขาด […]

เครื่องใช้ไฟฟ้า ปัจจุบันมีเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดที่มีคุณสมบัติทนต่อน้ำท่วม โดยจะมีค่าาตรฐานสากล สังเกตได้จากรหัส IP ที่ติดไว้ด้านข้างเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยแสดงด้วยตัวเลขสองหลัก ทำความรู้จัก IP Code มาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะมี IP Code แจ้งข้อมูลส่วนนี้อยู่บนฉลากข้างเรือนปั๊ม ซึ่ง IP Code (Ingress Protection Code) คือ มาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น หรือที่เรียกว่า IP rating คือมาตรฐานที่บอกถึงระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำของเครื่องจักร หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้า การบอกถึงระดับมาตรฐานการป้องกันหลักๆ จะบอกด้วยตัวเลขสองหลักที่ตามหลังตัวอักษร I และ P เช่น IP แล้วตามด้วยตัวเลย xx โดยตัวเลขหลักแรกหมายถึง ระดับการป้องกันของฝุ่นซึ่งมีระดับ 0 ถึง 6 ส่วนหลักที่สองหมายถึง ระดับการป้องกันของน้ำ ซึ้งมีระดับตั้งแต่ 0 ถึง 9 ความหมายของตัวเลข IP ความหมายของตัวเลขหลักแรก ตัวเลขหลักแรกเป็น 0 หมายถึง ไม่มีการป้องกันใดๆได้เลย ตัวเลขหลักแรกเป็น 1 หมายถึง มีการป้องกันจากของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 มม. ขึ้นไป ตัวเลขหลักแรกเป็น 2 หมายถึง มีการป้องกันจากของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 12 มม. ขึ้นไป ตัวเลขหลักแรกเป็น 3 หมายถึง มีการป้องกันจากของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 มม. ขึ้นไป ตัวเลขหลักแรกเป็น 4 หมายถึง มีการป้องกันจากของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 มม. ตัวเลขหลักแรกเป็น 5 หมายถึง มีการป้องกันจากฝุ่นผงละออง แต่ต้องเป็นฝุ่นละอองของสารที่ไม่ทำให้เกิดอันตราย* ตัวเลขหลักแรกเป็น 6 หมายถึง มีการป้องกันจากฝุ่นผงละอองของสารที่อาจทำให้เกิดการกัดกร่อน หรือเป็นอันตรายได้ ความหมายของตัวเลขหลักที่ 2 ตัวเลขหลักที่ 2 เป็น 0 หมายถึง ไม่มีการป้องกันจากของเหลวใดๆได้เลย ตัวเลขหลักที่ 2 เป็น 1 หมายถึง มีการป้องกันจากหยดน้ำที่หยดลงมาในแนวดิ่ง ตัวเลขหลักที่ 2 เป็น 2 หมายถึง มีการป้องกันจากหยดน้ำที่หยดลงกระทบทำมุม 15 องศาจากแนวดิ่ง ตัวเลขหลักที่ 2 เป็น 3 หมายถึง มีการป้องกันจากน้ำฝนที่ตกกระทบทำมุม 60 องศาจากแนวดิ่ง ตัวเลขหลักที่ 2 เป็น 4 หมายถึง มีการป้องกันจากน้ำได้รอบทุกทิศทาง ตัวเลขหลักที่ 2 เป็น 5 หมายถึง มีการป้องกันจากสายน้ำ (jet water) ได้รอบทุกทิศทาง* ตัวเลขหลักที่ 2 เป็น 6 หมายถึง มีการป้องกันจากสายน้ำ (jet water) ที่มีแรงคล้ายๆกับน้ำทะเล ตัวเลขหลักที่ 2 […]

ตรวจสอบปั๊มน้ำ หลังน้ำท่วม มีวิธีการอย่างไร มาดูกันครับ วิธีการตรวจสอบปั๊มน้ำ หลังน้ำท่วม เราควรทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเรียกช่างมาตรวจสอบ หรือส่งซ่อมน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อันที่จริงแล้วสามารถใช้ไขควงเช็คไฟ เช็คที่ตัวถังของปั้มน้ำ ที่เป็นโลหะ ว่ามีไฟฟ้ารั่วหรือไม่ แต่จะทำได้ภายใต้ข้อจำกัดว่า ที่บ้านต้องมีเครื่องตัดไฟรั่ว ไฟช็อต อัตโนมัติ เท่านั้นหากไม่ได้ติดตั้งไว้ จะไม่สามารถเช็กไฟได้ เเละ เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ไม่คุ้มเสี่ยงที่จะลองทำเอง  ตรวจสอบปั๊มน้ำ โดยด่วน! หาก “ปั้มน้ำ”โดนเเช่น้ำ ควรส่งให้ช่างตรวจสอบใน 3 จุด ส่วนมอเตอร์ปั๊มน้ำ ต้องถอดรื้ออกมาเป็นชิ้นๆ โดยเเยกล้างด้วยน้ำเปล่าเอาคราบตะกอน , โคลนที่ไปติดในขดลวดอามาเจอร์ ( ขดลวดมัดข้าวต้ม ) เเละ ล้างด้วยน้ำมันเบนซิน 91 ให้สะอาดอีกที เเล้วทำการ อบ หรือ ตากเเดดทิ้งให้เเห้ง เเล้วมาทดสอบ โดยการป้อนไฟเข้าไป ประมาณ 60-100 V ตรวจเช็คว่า ทุ่นขดลวดทองเเดง ที่อาบน้ำยาไม่มีการเสื่อม – ไม่มีไฟรั่ว หากไม่มี ก็จะทำการอาบน้ำยาวานิชใหม่ เเละ ทำการอบให้เเห้ง ตลับลุกปืนทุ่นมอเตอร์ ต้องเปลี่ยนใหม่อย่างเดียวครับ เพราะ ตลับลูกปืนที่ใช้ส่วนใหญ่ โดนน้ำเเช่เป็นสัปดาห์อย่างนี้ ใช้งานได้ แต่ก็ใช้งานได้ไม่นานครับ เสียงลูกปืนจะดัง เเละ เริ่มฝืดติดตาย เพราะ จารบีในตลับลูกปืนเเข็ง , เม็ดลูกปืนเป็นสนิม เพราะโดนน้ำ มอเตอร์ไหม้ , ไฟรั่ว ต้องพันมอเตอร์ปั๊มใหม่ สวิตช์เเรงดัน หรือ PRESSURE SWITCH ของปั้มน้ำ ให้ถอดรื้ออกมาดู เเต่ที่พบ ๆ มาน้ำเข้าไปได้ครับ เเนะนำให้เปลี่ยน เพราะมันเป็นชุดที่มีสปริงจุดหมุนด้านกลเล็ก ๆ ที่มีโอกาสเป็นสนิมติดตาย เเละ หน้าทองขาว หรือ หน้าคอนเเทค โดนน้ำ ส่วนใหญ่ที่เจอ ใช้งานไม่นาน หน้าคอนเเทคก็ไหม้ ได้ครับ ( เป็นสนิมอ๊อกไซต์เเละเราไม่สามารถเข้าไปขัดหน้าคออนเเทคได้ ) คอนเดนเซอร์สตาร์ท เเนะนำให้เปลี่ยนครับ เพราะ มันไม่ได้ออกเเบบมาเพื่อกันน้ำ แต่มันออกเเบบมาเเค่กันน้ำสาด เล็ก ๆ น้อยๆ เพียงเท่านั้น ไม่สามารถ เเช่น้ำเป็นสัปดาห์ ๆ ได้ครับ จุดจั๊มป์ต่อสาย ในปั้มน้ำโดยใช้ หมวกบีบ หรือ เป็นเเบบ เทอร์มินอล ก็ทำความสะอาด เเละ ล้างด้วยโซเเน็กซ์ หรือ น้ำยาล้างคอนเเทค KIKAWA ยังมี ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับ วิธีดูแลถังเก็บน้ำ หลังน้ำท่วม มาฝากทุกท่านเช่นกันครับ เพราะ เมื่อเราติดตั้งปั๊มน้ำ สิ่งที่มาคู่กัน นั่นก็คือ ถังเก็บน้ำ ใช่ไหมล่ะครับ มาดูวิธีการดูแลถังเก็บน้ำกันเลยครับ สำหรับถังเก็บน้ำบนดิน จะเริ่มจากการ สำรวจสภาพภายนอก ของถังเก็บน้ำ ว่ามีชำรุดเสียหาย แตก รั่ว หรือไม่ เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรก […]

วิธีไล่อากาศ (KIKAWA) กรณี ปั๊มไม่เเรง หรือ เดินไม่หยุด หลังจากติดตั้งปั๊มน้ำ ครั้งเเรก! วิธีไล่อากาศ กรณีปั๊มไม่เเรง หรือ เดินไม่หยุด หลังจากติดตั้งปั๊มครั้งเเรก หลังการติดตั้งปั๊มเสร็จแล้ว หากยังพบว่าน้ำไม่เเเรง หรือ ปั๊มเดินไม่หยุด ส่วนมาก กเกิดจากสาเหตุ ไล่อากาศออกจากปั๊มไม่หมด (มีอากาศค้างอยู่ในระบบ) เเนะนำให้ลองไล่อากาศอีกครั้ง เเละนี่ คือ วิธีการที่ดี เเละ ถูกต้องที่สุดครับผม ให้ถอดปลั๊กหรือ ปิดเบรคเกอร์ลง จากนั้น ให้ถอดจุดเเดง ที่ปั๊มน้ำออก เปิดปั๊มน้ำ ประมาณ 10 วินาที เเล้วปิดปั๊ม (เเนะนำให้หาถ้วย มาครอบกันน้ำกระเด็น) ทำข้อ 3 ซ้ำๆ อีกประมาณ 4-5 ครั้ง (เปิด-ปิดปั๊ม) เสร็จเเล้ว ปิดจุกเเดงกลับเข้าที่เดิม หากมองไม่เห็นภาพ สามารถดูคลิปประกอบ ด้านล่างนี้ แล้วทำตามได้เลยครับ นอกจาก ทำการไล่อากาศ แล้ว สิ่งที่จะทำควบคู่ไปด้วยกัน นั่นคือ การล่อน้ำ ครับผม การล่อน้ำ สำหรับปั๊มน้ำอัตโนมัติ คืออะไร ? ต้องทำอย่างไรบ้าง? ในการติดตั้งปั๊มน้ำ หรือ ปั๊มน้ำอุตสาหกรรม เพื่อการใช้งาน การล่อน้ำ ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอน ที่ผู้ใช้งานปั๊มน้ำ หรือ ปั๊มน้ำอัตโนมัติทุ กคนจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญ เป็นอย่างมาก เพราะ ขั้นตอนของการล่อน้ำดังกล่าวนี้ ถือเป็นขั้นตอน ที่จะสามารถ ช่วยควบคุมอัตราการไหลของน้ำ ในบริเวณต่าง ๆ ภายในบ้าน ให้มีความเเรงที่สม่ำเสมอ เเละ คงที่ เพื่อการใช้งานน้ำสำหรับอุปโภค เเละ บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด การล่อน้ำ (Priming) คืออะไร ? การล่อน้ำ หรือ Priming สำหรับปั๊มน้ำ หรือ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เป็นหนึ่งในวิธีการ ที่จะช่วยทำให้ปั๊มน้ำประเภทต่าง ๆ สามารถทำงานต่อไป ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณี ที่น้ำภายในระบบหายไป โดยการล่อน้ำ จะสามารถทำได้ โดยการเติมน้ำเข้าไป ภายในระบบของเครื่องปั๊มน้ำอัตโนมัติ เพื่อให้มีน้ำ ไปทำการหล่อเลี้ยงชุดใบพัด ที่ถูกติดตั้งเอาไว้ด้านใน ให้สามารถสร้างเเรงดูด ร่วมกับการไล่อากาศ ออกจากระบบ ซึ่งจะช่วยทำให้ ปั๊มน้ำสามารถกลับมาดูดน้ำได้ตามปกติอีกครั้ง วิธีการล่อน้ำสำหรับแท้งก์น้ำที่ถูกติดตั้งบนดิน วิธีการล่อน้ำสำหรับแท้งก์น้ำที่ถูกติดตั้งใต้ดิน หรือระดับน้ำต่ำกว่าตัวปั๊มน้ำอัตโนมัติ หากปั๊มน้ำ ที่ใช้อยู่ หรือ เป็นการติดตั้งปั๊มน้ำในครั้งเเรก เเล้วน้ำมีอาการ ไหลเบา ไหลเอื่อย เเรงไม่สม่ำเสมอเท่ากันทุกก๊อก ให้ทุกท่าน ลองนำวิธีการ ไล่อากาศ เเละ วิธีการล่อน้ำ ไปเเก้ไขควบคู่กันไป ทั้งสองวิธีนะครับ จะทำให้ปั๊มน้ำของคุณ กลับมาสูง เเละ ส่งน้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเเน่นอนครับ ติดตามข่าวสารดีๆ และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปั๊มน้ำ KIKAWA เพิ่มเติมได้ที่: 🔵 Facebook: Kikawa Thailand ปั๊มน้ำอัตโนมัติ […]

การติดตั้งปั๊มน้ำ มีวิธีการอย่างไร? การติดตั้งปั๊มน้ำ นั้นไม่ยากอย่างที่คิด เมื่อเลือกขนาดปั๊มน้ำที่ต้องการได้แล้ว ก็ต้องพิจารณาที่จะติดตั้งให้เหมาะสม เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และทนทาน ควรติดตั้งปั๊มในที่ร่ม กันแดด กันฝน อาจทำหลังคา หรือกล่องใหญ่ๆคลุม แบบบ้านหมาก็ได้ ต้องให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และยกออกได้ ตรวจซ่อมปั๊มได้ง่าย แม้ว่าปั๊มส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้ติดตั้งภายนอกได้ แต่ปั๊มที่อยู่ในที่ร่มจะทนกว่ามาก และปลอดภัยกว่ามากด้วย โดยเฉพาะปั๊มที่มีกล่องควบคุมแบบอิเลคทรอนิคติดที่ตัวปั๊ม ควรติดตั้งปั๊มบนฐานรอง ให้ปั๊มสูงจากพื้นเล็กน้อย น้ำไม่ท่วมขัง ปั๊มจะทนมากขึ้น ไม่เป็นสนิม และปลอดภัย ลดโอกาสไฟฟ้ารั่ว ติดตั้งปั๊มห่างจากผนังอย่างน้อย 10 เซนติเมตร ประมาณ 1 ฝ่ามือ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ปั๊มจะได้ไม่ร้อนมากขณะทำงาน ช่วยให้ปั๊มทนขึ้นอีกแล้ว ทั่วไปปั๊มจะมีใบพัดระบายความร้อนอยู่ด้านท้ายของปั๊ม ทำหน้าที่หมุนดูดอากาศผ่านด้านข้างตัวปั๊มเพื่อระบายความร้อน ควรติดตั้งในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ควรคอยตรวจดูอย่าให้มีใบไม้ เศษกระดาษ ถุงพลาสติก ติด ขวางทางระบายความร้อนของปั๊ม การติดตั้งท่อน้ำกับตัวปั๊ม ควรติดตั้งให้ได้ระดับ และได้แนวพอดีกับแนวเกลียวหรือข้อต่อของปั๊ม อย่าให้งัด งอ หรือไม่ได้แนว ซึ่งอาจทำให้ ท่อแตกร้าว หรือตัวปั๊มแตกร้าว หรือเกิดรอยรั่วได้ง่าย เนื่องจากขณะที่ปั๊มน้ำทำงานจะมีการสั่นเล็กน้อย ถ้าติดตั้งท่อไม่ดี อาจทำให้ส่วนที่งัดเสียหายได้ง่าย การติดตั้งท่อควรระวังอย่าให้มีสิ่งสกปรก เศษวัสดุ เศษท่อพี.วี.ซี.(ท่อพี.วี.ซี.ควรตัดด้วยกรรไกรตัดท่อพี.วี.ซี. ซึ่งให้รอยตัดที่เรียบ ไม่มีเศษพลาสติก) เศษเกลียวท่อ เทปพันเกลียว เข้าไปในท่อ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดขัดใบพัดปั๊ม ติดขัดที่ลูกลอยหรือวาวล์ว ต่างๆในระบบน้ำ ท่อดูดและท่อจ่ายน้ำของปั๊ม ไม่ควรเล็กกว่าขนาดของจุดต่อท่อของปั๊ม การใช้ท่อเล็กจะทำให้ประสิทธิภาพของปั๊มไม่ดี ไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ระบุในสเปค ไม่ควรต่อปั๊มดูดน้ำโดยตรงจากท่อประปา เนื่องจากจะทำให้ดูดสิ่งสกปรกในท่อประปาเข้ามาโดยตรว ถ้าท่อประปารั่วก็จะดูดน้ำสกปรกหรืออากาศเข้ามา และผิดระเบียบการใช้น้ำของการประปา ควรต่อท่อประปาเข้าถังเก็บน้ำแล้วใช้ปั๊มดูดน้ำจากถังเก็บจ่ายเข้าบ้าน การต่อสายไฟฟ้าเข้ากับปั๊ม ควรเลือกขนาดสายที่สามารถรับกระแสไฟฟ้าที่ปั๊มใช้ได้เพียงพอ ถ้าใช้สายเล็กจะทำให้สายร้อนและละลายได้ ควรติดตั้งสายไฟที่จุดต่อสายไฟในตัวปั๊ม ไม่ควรใช้การเสียบปลั๊ก หรือตัดปลายปลั๊กแล้วต่อสาย สายไฟไม่ควรมีจุดตัดต่อที่กลางสาย ควรมีชุดเบรกเกอร์ควบคุมปั๊มต่างหาก 1 ชุด เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการซ่อม ถ้าต้องเดินสายไฟฟ้านอกอาคารไปยังปั๊ม ควรเดินสายไฟโดยการร้อยในท่อพี.วี.ซี. สีเหลือง ซึ่งใช้สำหรับเดินสายไฟนอกอาคาร ควรทำงานติดตั้งด้วยความละเอียด เรียบร้อย โดยใช้ช่างที่มีความรู้โดยตรง หรือศึกษาข้อมูลก่อนทำงานติดตั้ง การติดตั้งต่อท่อน้ำ ต่อไฟให้ปั๊มน้ำทำงานนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่การติดตั้งให้ดี ปลอดภัย เรียบร้อย ต้องใช้ความรู้และความชำนาญพอสมควร การติดตั้ง – ซ่อม ในส่วนที่เกี่ยวกับระบบไฟฟฟ้า ควรทำโดยช่างที่มีความรู้ ความชำนาญโดยตรง และตัดไฟฟ้าก่อนทำการซ่อม-ติดตั้ง หลังจากที่ เราได้รู้ข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับการติดตั้งปั๊มน้ำ ไปแล้ว เรามารู้ข้อมูลเกี่ยวกับ ข้อควรระวัง ในการใช้ปั๊มน้ำ กันบ้างนะครับ เพื่อที่จะได้ช่วยยืดอายุของปั๊มน้ำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น 1. เราต้องไม่วาง ปั๊มน้ำ ให้อยู่พื้นที่นอกหลังคา หรือในพื้นที่ที่ทำให้ปั๊มน้ำโดนแดด โดนฝน เพราะจะทำให้ปั๊มน้ำมีโอกาสเสียหายเร็วขึ้น พื้นที่ที่ติดตั้ง ปั๊มน้ำ ควรอยู่ในที่ร่ม ภายใต้หลังคา จะดีที่สุดครับ 2. ไม่ควรใช้ไขควง ตั้งไฟของปั๊มน้ำด้วยตัวเอง หากไม่มีความชำนาญพอ เพราะอาจจะทำให้ ปั๊มน้ำเสียหายมากกว่าเดิม หรืออาจจะทำให้หมดการรับประกันของปั๊มน้ำไปเลยก็ได้ ข้อนี้ สำคัญมากนะครับ นอกจากนี้ อาจเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย ต่อตัวคุณอีกด้วยครับ  3. ไม่ควรปล่อยให้ปั๊มน้ำทำงาน หรือเดินเครื่องทำงานอยู่โดยไม่มีน้ำอยู่ในปั๊มน้ำ เพราะอาจทำให้ ตัวปั๊มน้ำหรือ มอเตอร์ปั๊มน้ำ เกิดการไหม้ และเสียหายในที่สุดครับ 4. ควรจะมีฐานรองปั๊มน้ำ ทำให้ปั๊มสูงจากพื้นเล็กน้อย […]

การเลือกใช้ปั๊มน้ำ ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของบ้าน ไม่ควรเลือกวัตต์ที่มากไป อาจทำให้ท่อระเบิดได้ จากการที่มีแรงดันน้ำที่สูงเกินไป แต่หากเลือกวัตต์ที่น้อยเกินไป อาจทำให้น้ำไหลแรง ไม่สม่ำเสมอในทุกๆ จุดที่ใช้งาน การเลือกใช้ปั๊มน้ำ ควรทราบข้อมูลอะไรบ้าง มาดูกันครับ ต้องมีข้อมูลปริมาณการใช้น้ำภายในบ้าน บ้านมีกี่ชั้น ห้องน้ำชั้นสูงสุดอยู่ชั้นไหน มีคนอยู่กี่คน ห้องน้ำกี่ห้อง โอกาสที่จะใช้ก็อกน้ำ, ห้องน้ำพร้อมกัน โดยทั่วไปก็อกน้ำควรจะจ่ายน้ำที่อัตรา 12 ลิตร / นาที, อ่างล้างมือควรจ่ายน้ำที่อัตรา 6 ลิตร / นาที, ฝักบัวควรจ่ายน้ำที่อัตรา 12 ลิตร / นาที, อ่างอาบน้ำ ควรจ่ายน้ำที่อัตรา 18 ลิตร / นาที,เครื่องซักผ้า ควรจ่ายน้ำที่อัตรา 12 ลิตร / นาที, ส้วมชักโครก ควรจ่ายน้ำที่อัตรา 6 ลิตร / นาที แรงดันทั่วไป ที่อุปกรณ์ประปาต้องการ จะอยู่ประมาณ  10 – 20 เมตรเพื่อให้น้ำไหลได้ในอัตราที่ต้องการ เลือกปั๊มน้ำ ที่สามารถจ่ายน้ำได้ ในปริมาณที่ต้องการ ในระดับแรงดันที่ต้องการ โดยคำนึงถึงช่วงเวลา ที่ใช้น้ำพร้อมกันสูงสุด เช่นช่วงเช้าที่ห้องน้ำเต็มทุกห้อง ต้องเปิดน้ำจุดไหนบ้าง ใช้น้ำทั้งหมดกี่ลิตร/นาทีในช่วงนั้น แรงดันที่ต้องการหาจากแรงดันที่อุปกรณ์ต้องการ + ความสูงของอุปกรณ์วัดจากปั๊มน้ำ + แรงเสียดทานในท่อ (ยิ่งท่อเล็กแรงเสียดทานมาก ท่อใหญ่แรงเสียดทานน้อย) 5 สิ่ง ที่ควรนำไปพิจารณา สำหรับการเลือกปั๊มน้ำ 1. การเลือกกำลังวัตต์ปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งาน ให้พิจารณาจาก ปริมาณการใช้งานต่อวัน, จุดที่ใช้น้ำในบ้านทั้งหมดมีกี่จุด ทั้งในบ้านและนอกบ้าน, โอกาสและช่วงเวลาที่ใช้พร้อมกัน ประกอบกับความสูงของอาคาร  2. ประเภทของปั๊มน้ำ ปั๊มน้ำอัตโนมัติมีหลัก ๆ 2 ประเภท คือ ปั๊มชนิดถังแรงดัน และปั๊มชนิดแรงดันคงที่ ทั้งสองแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน มีผลต่อการสูงและส่งแรงดันน้ำ 3. วัสดุของตัวถังปั๊มน้ำ ควรมองหารุ่นที่ตัวถัง ผลิตจากวัสดุที่มีความทนทาน ไม่เป็นสนิมหรือออกแบบไร้รอยเชื่อมต่อ เพื่อป้องกันการรั่วซึมตามตะเข็บ ทั้งนี้ ควรเลือกปั๊มน้ำที่มีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดี เพื่อยืดอายุการใช้งานของตัวมอเตอร์ ซึ่งในบางรุ่นจะมีพัดลมระบายความร้อนในเครื่อง แต่ปั๊มน้ำอัตโนมัติบางรุ่นได้ออกแบบการระบายความร้อนด้วยน้ำหรือใช้มอเตอร์แบบแม่เหล็กถาวร จึงไม่จำเป็นต้องมีพัดลมระบายความร้อน 4. ควรมีระบบตรวจสอบความผิดปกติของน้ำ กรณีท่อรั่ว ปิดวาล์วน้ำไม่สนิท ปั๊มน้ำจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนหน้าตัวเครื่อง พร้อมกับปิดการทำงานให้อัตโนมัติ เพื่อป้องกันด้านความปลอดภัยและแจ้งให้ผู้ใช้ทราบได้ว่ามีจุดรั่วไหล 5. เลือกปั๊มน้ำเสียงเงียบ ระดับเสียงขณะใช้งาน ควรจะอยู่ที่ประมาณ 50-60 เดซิเบล และแนะนำให้มองหาปั๊มน้ำอัตโนมัติระบบ Inverter ที่นอกจากช่วยประหยัดค่าไฟแล้ว การทำงานยังเงียบ บางรุ่นมีระดับเสียงเท่า ๆ กับที่เราคุยกันปกติหรือประมาณ 45 เดซิเบล ช่วยลดมลพิษทางเสียงไปได้ค่อนข้างมากเลยครับ สรุปคร่าวๆ ในการเลือกกำลังวัตต์ของปั๊มน้ำ ให้เหมาะสมกับขนาดบ้าน และจุดใช้น้ำ มีดังนี้ 1. บ้านไม่เกิน 4 ชั้น ใช้น้ำพร้อมกัน  3 จุด + เครื่องทำน้ำอุ่น 2 เครื่อง = 300 […]

ประเภทของปั๊มน้ำ ใช้กับบ้าน มีอะไรบ้าง? เพื่อจะได้เลือกใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของคุณ  ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ใช้กันมาก สำหรับบ้านพักอาศัย ปัจจุบัน ปั๊มน้ำเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จำเป็นของทุกบ้าน เนื่องจากการขยายตัว ของแหล่งที่พักทำ ให้ความจำเป็น ในการสำรองน้ำไว้ใช้ เพื่อการบริโภค และอุปโภค มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น และมีการพัฒนาทางเทคโนโลยี มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการ และอำนวยความสะดวกสบายต่อผู้ใช้มาก ปั๊มน้ำ สำหรับสูบจ่ายน้ำประปาภายในบ้าน ในอาคาร มีหลายแบบ มีหลักการทำงานต่างๆกัน    ประเภทของปั๊มน้ำ แบบที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 4 แบบ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แบบมีถังแรงดัน ควบคุมการทำงานด้วย สวิทซ์แรงดัน (Pressure Switch) ปั๊มจะทำงาน เมื่อแรงดันในถังแรงดันต่ำกว่าที่ตั้งไว้ และหยุดเมื่อแรงดันสูงถึงกำหนด ปั๊มน้ำ ชนิดถังแรงดัน คือ เป็นปั๊มยอดนิยม ที่มีใช้มานานก่อนปั๊ม แบบอื่น ๆ โครงสร้างไม่ซับซ้อน ติดตั้งง่ายใช้งานสะดวก คนจึงนิยมใช้งาน อีกทั้งมีราคาถูก อะไหล่หาง่าย ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ถังความดัน เป็นปั๊มที่จะทำการ ดูดน้ำเข้าไปในถังความดัน เพื่อให้น้ำเข้าไปแทนที่อากาศ ที่อยู่ในถังความดัน โดยเฉลี่ยแล้ว จะได้ราวครึ่งนึงในถังความดัน เมื่อน้ำรวมทั้งอากาศอัดอยู่ ร่วมกันราวกับบอล หรือลูกโป่งที่สูบลมไปเต็ม ๆ จวนเจียนเกือบจะแตก เวลาเปิดก๊อกน้ำ หรือกดชักโครก น้ำก็จะถูกปลดปล่อยออกมา ไปยังจุดใช้น้ำต่าง ๆ ในบ้าน ข้อดี ถังความดัน แบบสเตนเลสสามารถหาซื้ออะไหล่ได้ง่ายในราคาที่ถูกตามร้านขายวัสดุก่อสร้างหรือร้านขายเครื่องมือช่างทั่ว ๆ ไป เหมาะสำหรับบ้าน หรืออาคารที่ต่อท่อตรงกับประปาเพราะในน้ำจะมีอากาศปะปนกับน้ำเข้ามาอยู่ การที่ได้พักน้ำในถังความดันนั้นจะช่วยแยกชั้นของน้ำ และอากาศที่ปะปนมาทำให้เวลาเราเปิดก๊อกน้ำแล้วน้ำจะเดินได้ต่อเนื่องไม่กระตุก หรือไม่มีอาการน้ำขาดท่อ ราคาตัวปั๊มถูกกว่าแบบปั๊มน้ำแรงดันคงที่ ข้อเสีย แรงดันของน้ำไม่คงที่ ทำให้เกิดอาการน้ำขาดช่วงไปชั่วขณะหนึ่งนั้นอาจจะส่งผลเสียทำให้มีปัญหากับเครื่องทำน้ำอุ่น หรือพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้น้ำในการทำงาน หากเปิดใช้งานพร้อมกันความแรงของน้ำแต่ละจุดอาจจะไม่เท่ากัน ปั๊มน้ำตัดการทำงานบ่อย ทำให้ต้องไล่เช็กลม และปล่อยน้ำอยู่เสมอ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แบบแรงดันคงที่ ควบคุมการทำงานด้วย สวิทซ์แรงดัน (Pressure Switch) และสวิทซ์ตรวจจับการไหลของน้ำ (Flow Switch)ปั๊มจะทำงานตลอดเวลาที่เปิดน้ำ และจะหยุดเมื่อปิดน้ำ ไม่มีอาการน้ำไหลแรง-เบา ขณะเปิดน้ำ ปั๊มน้ำชนิดแรงดันคงที่ คือ Inverter (ทรงเหลี่ยม) มีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามทันสมัย และแรงดันของน้ำสม่ำเสมอเหมาะกับบ้านที่มีการใช้น้ำหลายจุด และอุปกรณ์ที่ต้องการแรงดันน้ำคงที่ อย่างเช่น เครื่องซักผ้า, เครื่องทำน้ำอุ่น ระบบการทำงานโดยใช้ก๊าซไนโตรเจนอัดในกระบอกกลม เพื่อเพิ่มแรงดันโดยมีถุงลมยางไดอะแฟรมคั่นระหว่างน้ำกับก๊าซไนโตรเจน ซึ่งจะให้แรงดันสม่ำเสมอคงที่มากกว่าถังแรงดันลมธรรมดา และยังช่วยแก้ปัญหาเปิดน้ำชั้นล่างแล้วน้ำชั้นบนไหลอ่อนรวมถึงช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องทำน้ำอุ่นให้คงที่ด้วย ข้อดี ปรับรอบการทำงานของมอเตอร์ตามปริมาณการใช้น้ำจริงได้ ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องทำน้ำอุ่นให้คงที่ตอบโจทย์บ้านที่ใช้น้ำพร้อมกันหลายจุด รูปลักษณ์ภายนอกสวยงามทันสมัย ปั๊มน้ำแรงดันคงที่รุ่นสเปกสูงจะมีฟังก์ชันควบคุมปั๊มน้ำอัจฉริยะ สามารถตรวจสอบระบบแรงดันน้ำที่เปลี่ยนแปลงแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องเติมก๊าซไนโตรเจนตลอดอายุการใช้งานสามารถใช้ได้ในระยะยาว ข้อเสีย ราคาสูงกว่าปั๊มน้ำถังแรงดัน หากน้ำที่ไหลเข้ามามีอากาศปะปนอยู่มากจะทำให้ตัวเครื่องทำงานหนัก และเกิดการสะสมของความร้อน ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แบบอินเวอร์ทเตอร์ ควบคุมการทำงานด้วย อินเวอร์ทเตอร์ (Inverter) ปั๊มทำงานตลอดเวลาที่เปิดน้ำ และปั๊มจะพยายามทำงานให้น้ำไหลแรงเท่ากัน คือเมื่อเปิดก๊อกจำนวนมากขึ้น ปั๊มจะหมุนเร็วขึ้น ให้ปั๊มจ่ายน้ำได้มากขึ้น แต่ก็หมุนเร็วขึ้นได้ค่าหนึ่งเท่านั้น ปั๊มน้ำแบบอินเวอร์เตอร์ จะคล้ายกับ ปั๊มถังเหลี่ยมคือให้แรงดันคงที่ แต่เพิ่มคุณสมบัติระบบอินเวอร์เตอร์ ที่สามารถปรับรอบมอเตอร์ให้พอดี กับการใช้งาน โดยอินเวอร์เตอร์ จะคอยควบคุมการหมุนของมอเตอร์ ตามการใช้น้ำจริง เมื่อใช้น้ำมากหรือใช้น้ำหลายจุด มอเตอร์จะหมุนเร็วขึ้นเพื่อให้ปั๊มน้ำจ่ายน้ำได้มากขึ้น […]

  บำรุงรักษาปั๊มน้ำ ให้ถูกวิธี มีความจำเป็นอย่างยิ่ง หากทราบวิธี บำรุงรักษาปั๊มน้ำ จะทำให้ การบำรุงรักษาปั๊มน้ำ ถูกแก้ไขได้ทันท่วงที ทำให้การใช้งานมีความปลอดภัย และ มีอายุการใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น ปั๊มน้ำที่ใช้งานกัน ก็เหมือนกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และสิ่งของทุกชนิดที่ผู้ใช้ต้องใส่ใจดูแล หากรู้วิธี การบำรุงรักษาปั๊มน้ำ อย่างถูกต้อง เพื่อให้อุปกรณ์ชนิดนี้สามารถอยู่กับคุณได้ยาวนาน คุ้มค่า ไม่ต้องเสียเงินซ่อม หรือซื้อเพื่อเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ อีกทั้ง ยังไม่ติดขัดเรื่องการใช้น้ำด้วย ซึ่งปั๊มน้ำ แต่ละประเภทมีวิธีบำรุงรักษาที่ใกล้เคียงกัน จึงขอแนะนำสำหรับทุกครัวเรือน ดังนี้ครับ ตาราง การบำรุงรักษาปั๊มน้ำ สูบน้ำขึ้น แต่มีอาการดังนี้ สาเหตุ อาจมาจาก วิธีแก้ไข มอเตอร์ทำงานไม่หยุด สวิตซ์ความดันเสีย ซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ ก๊อกน้ำปิด แต่ปั๊มทำงาน 1. ท่อดูดหรือท่อส่งรั่ว2. น้ำรั่วจากชิ้นส่วนกันการรั่วซึม3. การปิดตัวของเช็ควาล์วไม่สนิท 1. ซ่อมแซม2. เปลี่ยนใหม่3. ทำความสะอาดเช็ควาล์ว ปั๊มทำงานบ่อยเกินไป 1. สวิตซ์ความดันเสีย2. อากาศในถังมีไม่เพียงพอ(กรณีเป็นปั๊นรุ่นทรงกระบอก)3. ลมในถังไม่เพียงพอ(กรณีเป็นปั๊มคิคาว่า รุ่น KQ)4. ปริมาณการใช้น้ำมากและบ่อย 1. เช็คสวิตซ์ความดันหรือเปลี่ยนใหม่2. ถ่ายน้ำออกจากถังให้หมดและทำความสะอาดหน้าสัมผัสสวิตซ์ความดัน (กรณีเป็นปั๊มรุ่นทรงกระบอก)3. เพียงเติมลม 20 ปอนด์หรือใช้ที่สูบลมจักรยานสูบสัก 5 ที (กรณีเป็นปั๊มคิคาว่า รุ่น KQ)4. ปิดก๊อกน้ำให้สนิท น้ำไหลช้า 1. ท่อด้านส่งมีการอุดตัน2. น้ำทางด้านสูบมีน้อยหรือไม่มี 1. แก้ไขซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่2. ปิดปั๊มน้ำ วิธี การบำรุงรักษาปั๊มน้ำ ให้ใช้งานยาวนาน คุ้มค่า ติดตามข่าวสารดีๆ และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปั๊มน้ำ KIKAWA เพิ่มเติมได้ที่: 🔵 Facebook: Kikawa Thailand ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ปั๊มน้ำเสียงเงียบ ปั๊มน้ำบ้าน 🌐 Website: www.kikawathailand.com  🟢 Line ID: @crgroupthailand 📱 Call Center: 02-026-6280 

ปั๊มน้ำ KIKAWA เเรงไม่กั๊ก เสียงไม่กวน เเละ อีกเหตุผล คุณสมบัติมากมายหลายอย่าง ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานน้ำ มาดูกันว่า ทำไมคุณจังควรเปลี่ยนมาใช้ ปั๊มน้ำ KIKAWA 1. ไร้เสียงรบกวน สูบ เเละ ส่งน้ำด้วยระบบหลายใบพัด Mulistage Centrifugal System ที่ให้การทำงานเงียบสนิท ไร้เสียงรบกวน การเลือกปั๊มน้ำ คือ ปั๊มควรทำงานด้วยเสียงที่เงียบ เบา มีความดังขณะทำงานไม่ควรเกิน 60 เดซิเบล เพราะ หากเสียงดังกว่านั้น อาจสร้างมลพิษทางเสียง สร้างความรำคาญ เเละ รบกวนผู้พักอาศัย รวมไปถึงเพื่อนบ้านได้อีกด้วย ปั๊มน้ำ KIKAWA ถูกออกเเบบ ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ใบพัดชนิดเรียบสูงถึง 3 ใบพัด เป็นระบบการทำงานหลายใบพัด (Multi-Stage Booster System) จึงทำให้ปั๊มออโต้ของ KIKAWA  เงียบ เปรียบเสียงกระซิบ หมดปัญหาปั๊มน้ำดังขณะทำงานแน่นอน 2. น้ำไหลเเรง เท่ากันทุกก๊อก ความเเรงของน้ำ เป็นคุณสมบัติที่ควรมี เพราะ เมื่อเราเลือกซื้อปั๊มออโต้ประจำบ้าน ก็มักต้องการน้ำที่ไหลเเรงสม่ำเสมอ ทุกจุดการใช้งาน เเม้ใช้งานพร้อมกันก็ตาม เเละ การดูระบบต่าง ๆ ที่ควบคุมแรงดันของน้ำ ก็ไม่ควรมองข้ามครับ 3. ปลอดสนิม ถังควบคุมเเรงดัน ผลิตจากสเเตนเลสเกรด A ทำให้ปลอดสนิม 100% ปั๊มออโต้ KIKAWA ผลิตด้วยวัสดุที่ดี มีคุณภาพ ป้องกันการเกิดสนิมได้ 100% โดย เสื้อปั๊มออโต้ของเรา นอกจากผลิตจาก วัสดุเทอร์โมพลาสติกแล้ว ในบางรุ่น เสื้อปั๊มผลิตจากวัสดุสเเตนเลส (Stainless) รวมไปถึง ถังเพรสเชอร์สเเตนเลส เกรด A ปลอดสนิม 100% ทนความร้อนได้สูง ต้านการกัดกร่อนสูง แม้บ้านที่ใช้น้ำบาดาลก็ตาม หากตัวปั๊ม มอเตอร์ หรือใบพัด ผลิตจากวัสดุไม่ได้คุณภาพ เกิดสนิมง่าย สนิมจะถูกไหลผ่านมาปะปนกับน้ำที่คุณใช้ ไม่เวิร์คเเน่นอนครับ 4. น้ำไม่กระตุก ภายในมีถุง Diaphragm คอยกักเก็บควบคุมน้ำ เเละ สวิตช์ควบคุม ที่ช่วยให้ปั๊มมีเเรงดันคงที่ เปิดน้ำพร้อมกันทุกก๊อก น้ำก็ไหลแรงสม่ำเสมอ ไม่มีกระตุก 5. คงทน เสื้อปั๊ม ผลิตจากเหล็กหล่อ พิเศษชั้นดี ไม่มีปัญหาน้ำรั่วซึม แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งาน ยาวนาน 10 ปี ความทนทาน เเข็งเเรง ของปั๊มน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่ง คุณสมัติที่ปั๊มออโต้ควรมีนะครับ เพราะ หากปั๊มน้ำ ไม่มีความเเข็งเเรง ทนทาน เราต้องคอยซ่อมหรือบำรุงรักษาอยู่ตลอด ก็ยิ่งเป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุครับ เพราะฉะนั้น ปั๊มน้ำ ควรมีความทนทาน เเข็งเเรง ทนฝุ่นละออง ความร้อน และ เเสงเเดด อุณหภูมิชื้น เศษหินดินทรายได้นะครับ โดยคุณสมบัติของวัสดุเทอร์โมพลาสติ มีมากมายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น.. 6. […]

การติดตั้งปั๊ม Kikawa สำหรับถังน้ำบนดิน และถังน้ำใต้ดิน อยากทราบข้อมูลกันไหมครับ วันนี้ KIKAWA มีข้อแนะนำมาให้ทุกท่านได้ทราบกัน การติดตั้งปั๊ม Kikawa ข้อแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการติดต้ังปั๊มน้ำ KIKAWA 1. ประตูน้ำ (บอลวาล์ว) ให้ติดตั้งทั้งทางเข้าและทางออก 2. ในกรณีปั๊มอยู่สูงกว่าแหล่งน้ำ เช่น ถังใต้ดินให้ใส่ฟุตวาล์วที่ปลายท่อทางน้ำเข้า 3. ในกรณีปั๊มอยู่ต่ำกว่าแหล่งน้ำ เช่น ถังเก็บน้ำบนดิน ไม่จำเป็นต้องใส่เช็ควาล์วทางเข้า เพราะในตัวปั๊มมีเช็ควาล์วอยู่แล้ว 4. ในกรณีติดตั้งปั๊มกับอาคารที่สูงเกิน 8 เมตร ควรใส่เช็ควาล์วที่ทางออกของปั๊ม เพื่อป้องกันความเสียหายกับชุดใบพัดที่เกิดการกระแทกกลับของน้ำ (เช็ควาล์วควรใช้ขนาด 1 นิ้ว) การติดตั้งปั๊ม จำเป็นต้อง ติดตั้งถังเก็บน้ำ ควบคู่กันไปด้วย แล้ว ถังเก็บน้ำบนดิน VS ถังเก็บน้ำใต้ดิน เลือกใช้แบบไหนดีกว่ากันล่ะ ? ถังเก็บน้ำบนดิน ถังเก็บน้ำบนดิน เป็นถังเก็บน้ำประเภทที่ใช้ติดตั้งบนพื้นที่เสริมฐานรองรับน้ำหนักตามขนาดของถังน้ำเพื่อป้องกันการทรุดตัวหากตำแหน่งที่ว่างมีพื้นดินเปียกตลอดเวลาหรือมีโอกาสเกิดดินทรุดตัว โดยข้อดีคือสามารถติดตั้งระบบและดูแลรักษาได้ง่าย มีราคาค่าติดตั้งที่ถูกกว่าแบบใต้ดิน แต่มีข้อเสียคือ อุณหภูมิของน้ำจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ ในบางรุ่นที่ผลิตจากถังเก็บน้ำพลาสติกโปร่งแสงจะทำให้เกิดตะไคร่น้ำขึ้นภายในถัง และต้องใช้พื้นที่ในการวางตัวถัง โดยถังเก็บน้ำบนดินนั้นมีให้เลือก 2 ประเภท ทั้งถังเก็บน้ำแบบผลิตจากพลาสติก และถังเก็บน้ำสแตนเลส ซึ่งทั้ง 2 ประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ถังเก็บน้ำบนดิน พลาสติก เป็นถังเก็บน้ำที่ผลิตจากพลาสติกที่มีหลายเกรดเช่น พลาสติกPE และธรรมดาและพลาสติกโพลีเอทีลีน ซึ่งมีความทนทานกว่าพลาสติกทั่วไป เหมาะสำหรับใช้ในระยะสั้นๆ มีข้อดีคือน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายทำความสะอาดได้สะดวก ราคาไม่สูงมาก และไม่ก่อให้เกิดสนิม มีข้อเสียคือถังน้ำในบางรุ่นที่มีความโปร่งแสงทำให้ก่อให้เกิดตะไคร่น้ำได้ ถังเก็บน้ำสแตนเลส เป็นถังเก็บน้ำที่ผลิตจากสแตนเลสเหมาะสำหรับเก็บสำรองน้ำประปา มีข้อดีคือแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน ไม่ก่อให้เกิดตะไคร้น้ำเพราะตัวถังมีความทึบแสง มีรูระบายน้ำที่ก้นถังสามารถระบายน้ำได้สะดวก ข้อเสียคือ หากเลือกใช้ถังน้ำสแตนเลสที่ไม่ได้คุณภาพหรือใช้ถังน้ำบรรจุน้ำกร่อยจะก่อให้เกิดคราบสนิมซึ่งเป็นอันตรายในการใช้งาน มีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายไม่สะดวก ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส เป็นถังเก็บน้ำที่มีความแข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่น รองรับแรงอัดได้ค่อนข้างดี มีอายุการใช้งานนาน ไม่เป็นสนิม เหมาะกับการเก็บสำรองน้ำในปริมาณมาก ๆ แต่ทำความสะอาดยาก มีน้ำหนักมากเคลื่อนย้ายลำบาก และอาจมีกลิ่นเหม็นได้ ถังเก็บน้ำพอลิเมอร์ชนิดพิเศษ (elixir) วัสดุที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อเสียต่าง ๆ ของถังเก็บน้ำพลาสติกชนิดทั่วไป มีคุณสมบัติทนต่อแสง UV ใช้งานกลางแจ้งได้ สีไม่ซีดและไม่แตกกรอบง่าย มีความทึบแสงจึงไม่เป็นตะไคร่น้ำ จึงมีความความสะอาดและปลอดภัยกว่า โดยคุณสมบัติของถังเก็บน้ำบนดินที่ว่ามานี้ในถังน้ำรุ่นใหม่ๆ ก็ได้เพิ่มมีนวัตกรรมเสริมเพื่อลดข้อเสียข้อถังเก็บน้ำเช่น การผลิตถังน้ำพลาสติกแบบทึบแสงช่วยลดการเกิดตะไคร่น้ำ การออกแบบรูปทรงถังน้ำให้เหมาะสมกับสถานที่การติดตั้ง การใช้สแตนเลสที่มีคุณภาพเพื่อไม่เกิดคราบสนิมที่เป็นอันตราย ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อถังน้ำในแบรนด์ที่ได้คุณภาพเพื่อให้ได้รับสินค้าที่ดีมีคุณภาพและการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัยยิ่งขึ้น ถังเก็บน้ำใต้ดิน ถังเก็บน้ำใต้ดินคือถังเก็บน้ำที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน มีข้อดีคือประหยัดพื้นที่ในการวางตัวถัง เนื่องจากถูกฝังอยู่ใต้ดินเหมาะกับสถานที่ที่มีพื้นที่น้อย ไม่ก่อให้เกิดตะไคร้น้ำเพราะตัวถังไม่ถูกแสงแดดส่องถึงรวมถึงมีอุณหภูมิน้ำที่คงที่ไม่เปลี่ยนไปตามสภาพอากาศมากนัก ข้อเสียคือติดตั้งยาก ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมาก ถ้าติดตั้งไม่ดีหรือไม่มีการเทคานรับน้ำหนักตัวถังอาจทรุดหรือเสียหายได้ โดยถังเก็บน้ำใต้ดินมี 2 ประเภทคือ แบบคอนกรีตและแบบพลาสติก ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียกันออกไป ถังเก็บน้ำใต้ดินแบบคอนกรีต เป็นการสร้างบล็อกเก็บน้ำโดยเทคอนกรีตเป็นบ่อสี่เหลี่ยมมีฝาปิดตามขนาดที่ต้องการ มีข้อดีคือแข็งแรง ทนทานใช้งานยาวนาน ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนและสามารถเลือกขนาดได้ตามต้องการ แต่มีข้อเสียคือต้องมีการใช้วัสดุกันซึมให้ดีเพราะมีโอกาสที่น้ำจะรั่วซึมได้ง่าย และมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง ถังเก็บน้ำใต้ดินแบบพลาสติกสำเร็จรูป เป็นถังเก็บน้ำที่ผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูงเพราะต้องทนกับแรงกดดันของพื้นดินเมื่อฝังอยู่ใต้ดิน มีข้อดีคือทนทานใช้งานยาวนาน สะอาดปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน อุณหภูมิน้ำคงที่ ประหยัดพื้นที่ใช้สอยบนพื้นดิน ตัวถังไม่รั่งซึมง่ายเหมือนแบบคอนกรีต แต่มีข้อเสียคือ ควรเลือกสินค้าที่มีคุณภาพแข็งแรงทนทานเพื่อให้ตัวถังสามารถรับแรงกดและกระแทกได้ดี ดูแลรักษายากและมีราคาสูง ถังเก็บน้ำแต่ละชนิด ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันโดยสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมหากเลือกใช้ผิดประเภทหรือใช้งานเพื่อที่ใช้งานไม่เหมาะกับถังน้ำที่ซื้อมาจะก่อให้เกิดข้อเสียมากกว่าข้อดี […]

เปรียบเทียบปั๊มน้ำ KIKAWA ของรุ่นต่างๆ (เรื่องของใบพัด) เปรียบเทียบปั๊มน้ำ เเต่ละรุ่นก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกันไป รุ่นที่ พัฒนาล่าสุด ก็คือ KQ Seires เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ ความเหมาะสมกับการใช้งาน         นอกจากนี้ KIKAWA นำข้อมูลเรื่องประเภทของ ใบพัด ของปั๊มหอยโข่ง มาให้ทุกคนได้ทราบ กันอย่างมากขึ้นด้วยครับ ประเภทของใบพัด ในปั๊มหอยโข่ง  โดยทั่วไป เเล้วปั๊มน้ำหอยโข่งจะถูกนำไปใช้งาน ในหลากหลายรูปเเบบ ไม่ว่าจะเป็นการสูบน้ำ เพื่อใช้ในการ อุปโภค เเละ บริโภค หรือ เเม้กระทั่งสูบน้ำเสีย ที่มีอนุภาคของเเข็งปะปน ก็ตาม จึงทำให้ลักษณะ ของใบพัดในปั๊มเหล่านี้ เเตกต่างกันออกไป โดยเเบ่งออกเป็น 3 ลักษณะดังนี้ 1.ใบพัดเเบบปิด (Closed Impeller) : เป็นรูปเเบบใบพัด ที่ใช้งานกันทั่วไป ในปั๊มหอยโข่ง โดยใช้เเผ่นเหล็ก 2 ชิ้น ประกบครีบใบพัด ทำให้เกิดช่องว่าง เพื่อรองรับการไหลของของเหลว  นอกจากนั้น ยังทำให้ ประสิทธิภาพของการไหลดีกว่า ใบพัดประเภทอื่นอีกด้วย เเต่ใบพัดลักษณะ นี้รองรับเพียงประเภทของเหลว ที่เป็นน้ำสะอาดเท่านั้น ตัวอย่างการใช้งาน ใบพัดเเบบปิด การประปา เเละ ระบบสูบน้ำสะอาด ระบบสูบน้ำ สถานที่พักผ่อนต่าง ๆ ระบบชลประทาน 2. ใบพัดเเบบกึ่งเปิด (Semi-open Impeller) : การออกเเบบ ของใบพัดประเภทนี้ จะต่างจากใบพัดเเบบปิดเพียงเล็กน้อย ในส่วนของเเผ่นเหล็ก ที่ติดกับครีบใบพัดจะลดลงเหลือ 1 ชิ้น ทำให้มีประสิทธิภาพ ในการทำงานต่ำกว่าใบพัดเเบบปิด เเละ สามารถรองรับการไหล ของของเหลวที่มีอนุภาคของเเข็ง ปะปนได้บางส่วน รวมถึงรองรับของเหลว ที่มีความหนืด ได้เช่นกัน ตัวอย่างการใช้งาน ใบพัดเเบบกึ่งเปิด ระบบสูบน้ำสกปรกทั่วไป ระบายน้ำเสีย ที่มีสิ่งปฎิกูลต่าง ๆ ที่เจือปน 3. ใบพัดเเบบเปิด (Open Impeller) : เป็นรูปเเบบใบพัด ที่มีเพียงครีบใบพัดอย่างเดียว เเละ ไม่มีเเผ่นเหล็ก ยึดทำให้ใบพัดเเบบเปิด สามารถรองรับ อนุภาคของเเข็งที่ขนาดใหญ่ขึ้นได้ เเต่ด้วยลักษณะของใบพัด จึงรับเเรงกระเเทก จากของเหลว ได้น้อยกว่า 2 เเบบเเรก จึงทำให้ปั๊มเหล่านี้ มีขนาดที่เล็ก เเละ มีประสิทธิภาพที่ต่ำ นอกจากนั้น ความถี่ของมอเตอร์ที่ใช้ ต้องลดลงด้วย เพื่อป้องกันการเเตกหักของใบพัด ตัวอย่างงานการใช้งาน ใบพัดเเบบเปิด ระบบโรงงานอุตสาหกรรม เยื่อกระดาษ ระบบสูบน้ำเสีย จากการทำอาหาร ที่มีเศษอาหารเจือปนน้อยไปจนถึงมาก ระบบสูบน้ำเสียศูนย์อาหาร ที่ไม่สามารถควบคุมได้อาจจะมี เศษอาหาร ฝาขวดน้ำ ไหลลงมาที่บริเวณใบพัดได้ 4. เปเปอร์สต๊อก (Paper-stock Impeller) เป็นใบพัด ที่ได้รับการออกเเบบเป็นพิเศษ เพื่อให้ใช้กับของเหลว ที่มีความข้นเหลว (Consistency) […]

การบำรุงรักษาปั๊มน้ำ สำคัญมากนะครับ เพราะ ปั๊มน้ำนั้น เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญใน โรงงานอุตสาหกรรม บ้าน คอนโดมิเนียม การเกษตร เพราะการทำกิจกรรมบางอย่างอาจจะต้องอาศัยปั๊มน้ำ  เพราะฉะนั้นจึงต้องจัดทำรายการตรวจเช็ค  ระยะเวลาในการตรวจเช็ค  เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับปั๊มน้ำ  ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นอาจจะทำให้กิจกรรมต่างๆหยุด แล้ววิธี การบำรุงรักษา ปั๊มน้ำมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ ตรวจสอบปั๊มน้ำขณะปั๊มน้ำทำงาน ตรวจเช็คแรงดันน้ำ โดยตรวจสอบจากเพรสเชอร์เกจ ว่าแรงดันน้ำต่ำหรือสูงกว่า ไปจากเดิมหรือไม่ ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้า โดยใช้คลิปแอมป์ตรวจเช็คว่ามีกระแสผิดปกติหรือไม่ ตรวจเช็คอุณหภูมิตามจุดต่างๆว่ามีอุณหภูมิสูงกว่าปกติหรือไม่ ตรวจเช็คการสั่นสะเทือน และระดับเสียงว่าแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่ การเปลี่ยนอะไหล่ปั๊มน้ำ หมันหรือปะเก็นเชือก เมื่อมีน้ำรั่วผ่านกระบอกหมันมากเกินไป ควรขันแป้นเกลียวอัดหมันหรือปะเก็นเชือก ให้แน่นขึ้น โดยตรวจสอบจากการหยดของน้ำ เวลาอัดหมันต้องหยุดปั๊มน้ำก่อน แล้วระบายแรงดันภายในออกก่อน ไม่ควรอัดหมันแน่นเกินไป แต่ถ้าปลอกเพลาสึกมาก ก็ควรเปลี่ยนเพลาด้วย ปกติแล้วควรเปลี่ยนหมันหรือปะเก็นเชือกประมาณปีละครั้ง เมคานิคอลซีล ถ้ามีน้ำรั่วผ่านเมคานิคอลซีล ควรเปลี่ยนซีลทั้งชิ้นทันที แล้วตรวจเช็กหาสาเหตุ ว่าน้ำที่รั่วเกิดจากอายุการใช้งานของซีล หรือการสึกของเพลา หรือ น้ำที่ใช้ปั๊มน้ำดูดส่ง นั้นมีความสกปรกมากขึ้น ข้อต่อยางยอย ควรเปลี่ยนข้อต่อยางยอยทันที ที่ตรวจพบการเยื้องศูนย์ของเพลา แตกหัก หรือ มีการสั่นผิดปกติ เสียงดังผิดปกติ  เมื่อทำการเปลี่ยนข้อต่อยางยอยแล้วจะต้องทำการตั้งศูนย์เพลาด้วย ถ้าการตั้งเพลาไม่ตรง ให้ทำการแก้ไขทันที ปล่อยไว้นานจะเกิดความเสียหายกับปั๊มน้ำได้ แบริ่ง หรือ ลูกปืน ของปั๊มน้ำ        ปกติแล้วควรเปลี่ยนแบริ่งทุกๆ 2-3 ปี แต่ถ้าปั๊มน้ำถูกติดตั้งไว้ในที่ที่มีความชื้น และฝุ่นละอองมากเกินไป จารบีในลูกปืนจะไหลออก และทำให้ลูกปืนในแบริงเป็นสนิมได้ ภายใต้สภาวะเช่นนี้ ปั๊มน้ำ จะส่งเสียงดังผิดปกติหรือความร้อนสูง ซึ่งอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแบริ่งทันที น้ำมันหล่อลื่นของปั๊มน้ำ        ปั๊มน้ำบางรุ่นใช้แบริงปลอกและน้ำมันเป็นสารหล่อลื่น  กรณีที่เป็นปั๊มน้ำเริ่มใช้งานควรเปลี่ยนน้ำมันทุกๆอาทิตย์ของการทำงานในช่วงแรก แต่ถ้าปั๊มน้ำมีการใช้งานไประยะหนึ่งแล้ว ควรเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นทุกๆ 6 เดือน การยกเครื่อง หรือ การโอเวอร์ฮอล ปั๊มน้ำ ภายหลังการใช้งาน ปั๊มน้ำมาเป็นเวลานาน ส่วนเคลื่อนที่สึกหล่อไปตามกาลเวลา ทางเดินของปั๊มน้ำ อาจเป็นสนิมทำให้ประสิทธิภาพของปั๊มน้ำ ลดลง จึงจำเป็นต้องทำการยกเครื่อง หรือ โอเวอร์ฮอลใหญ่ ทุกๆ 3-5 ปี การหยุดเดินปั๊มน้ำ กรณีที่จำเป็น ต้องหยุดปั๊มน้ำเป็นเวลานาน จะต้องถ่ายถ่ายน้ำออกให้หมด การที่ถ่ายน้ำออกไม่หมด จะทำให้ปั๊มน้ำเป็นสนิม ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถใช้ปั๊มน้ำได้จนกว่าจะแก้ไขเสียก่อน การบำรุงรักษาปั๊มน้ำ KIKAWA มีวิธีการอย่างไร? การบำรุงรักษาปั๊มน้ำ โดยปกติแล้วหากปั๊มน้ำมีการทำงานอย่างปกติสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจเช็คใดๆ หรือทำการใดๆ กับเครื่องสูบน้ำ มีเจ้าบ้านสอบถามมา น้องจุ๊ๆ ขอไขความกระจ่างดังนี้ครับ 1. คำถาม: ถังแรงดันแสตนเลส ต้องเติมลมบ่อยๆ หรือไม่…ตอบ: ไม่ต้องทำการใดๆ เลยครับ เนื่องจากมีการเซ็ทจากโรงงานมาแล้ว อายุการใช้งานยาวนาน 2. คำถาม: Flow switch ต้องเปลี่ยนเมื่อใดตอบ: ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใดๆ หากปั๊มยังทำงานได้ดี 3. คำถาม: สามารถปรับเพรชเชอร์สวิทซ์ได้หรือไม่ (สวิทซ์แรงดัน)ตอบ: ไม่ควรปรับเด็ดขาด!!! ทางโรงงานมีการเซ็ทค่าที่เหมาะสมมาแล้วครับ การปรับ ทำให้การทำงานของปั๊มจะไม่ได้ค่ามาตรฐานเดิมครับ ————————— TIP for KIKAWA maintenace Usually, […]