ในยุคนี้ หากมีอะไรที่ทำให้ประหยัดได้ ผู้คนก็ต้องเลือกอย่างแน่นอน สำหรับค่าไฟของปั๊มน้ำ อาจเป็นจุดเล็กๆ ที่หลายท่านไม่ได้คำนึงถึง แต่อย่าลืมว่า ปั๊มน้ำก็เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ที่กินไฟและถูกใช้งานอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น มันจะดีกว่าไหม? ถ้าเรามีวิธีช่วยประหยัดค่าไฟของปั๊มน้ำมาให้กับทุกคน

มาดูเคล็ดลับการเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะกับบ้านและประหยัดไฟกัน!

• เลือกขนาดวัตต์ – แรงดันให้เหมาะกับขนาดบ้าน ก่อนติดตั้งปั๊มน้ำ เราควรทราบถึงปริมาณการใช้น้ำภายในบ้าน เช่น บ้านมีกี่ชั้น ห้องน้ำกี่ห้อง ชั้นสูงสุดอยู่ชั้นไหน ระดับแรงดันน้ำที่ต้องการ ในกรณีที่จะใช้ห้องน้ำพร้อมกัน รวมถึงพิจารณาร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน อาทิ เครื่องทำน้ำอุ่นจำนวนกี่เครื่อง 

ขนาดของปั๊มน้ำ สำคัญต่อการใช้งาน มีความสัมพันธ์กับขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน จำนวนสมาชิกในครอบครัว และปริมาณการใช้น้ำของแต่ละบ้าน เช่น บ้าน 1 ชั้น ที่มีสมาชิกในครอบครัว 2-3 คน ควรเลือกใช้เครื่องปั๊มน้ำขนาด 100-150 วัตต์ หรือหากแรงดันน้ำมากพอก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งครับ บ้าน 2 ชั้น ควรเลือกใช้ ปั๊มอัตโนมัติ 250 วัตต์ และบ้านทาวน์โฮม ที่มีจำนวน 3 ชั้น อาจจะเลือกใช้เครื่องปั๊มน้ำที่มีกำลังตั้งแต่ 400 วัตต์ขึ้นไป เพื่อให้แรงดันน้ำส่งไปถึงจุดที่ต้องการใช้งาน

บางคนอาจคิดว่ายิ่งจำนวนวัตต์สูง จะทำให้น้ำแรง เลือกแบบนี้ยิ่งดี แต่ที่จริงแล้วจะเป็นการสิ้นเปลืองเกินความจำเป็น ยกตัวอย่างง่ายๆ หากบ้านของเราเป็นบ้านชั้นเดียว ใช้น้ำพร้อมกันเพียง 1-2 จุด และมีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง เครื่องซักผ้า 1 เครื่อง ปั๊มออโต้ ที่มีกำลังวัตต์ ไม่เกิน 200W ก็เพียงพอแล้วครับ หรือ หากบ้านสูง2- 4 ชั้น ใช้น้ำพร้อมกัน 3-6 จุด มีเครื่องทำน้ำอุ่น 2 เครื่อง เครื่องซักผ้า 2 เครื่อง ก็ควรเลือกใช้ปั๊มที่มีกำลังวัตต์ 400W ขึ้นไป ถึงจะเหมาะสมครับ แต่ถ้าเลือกขนาดเล็ก ก็จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานหนัก ใช้ไฟเยอะขึ้น พังเร็วขึ้น

• เลือก ระบบ INVERTER ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประหยัดค่าไฟ แต่ยังให้เสียงเงียบขณะที่ทำงาน
• เลือกปั๊มน้ำที่มีพัดลมระบายอากาศ ช่วยระบายความร้อน ยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ให้เครื่องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  
• เลือกขนาดท่อให้เหมาะสมกับ ปริมาณน้ำ หากปริมาณน้ำมาก แต่เราเลือกขนาดท่อเล็ก เราก็จะประหยัดค่าท่อ แต่เราต้องแลกด้วยการเสียค่าไฟทีมหาศาล
• ลดปริมาณ ข้อต่อ ข้องอ ต่างๆ ที่ทำได้ พยายามให้ท่อเป็นแนวเส้นตรงให้มากที่สุด
• เลือกชนิดของใบพัดปั๊มให้เหมาะสมกับชนิดของน้ำที่ต้องการสูบ เช่น ถ้าเราเลือกใบพัดปั๊มเป็นแบบใบเปิดที่เหมาะกับน้ำที่มีตะกอน แต่เราเอาไปสูบน้ำสะอาด จะทำให้เสียพลังงาน ต้องใช้กำลังมอเตอร์สูง โดยใช่เหตุ

เมื่อเราเลือกปั๊มน้ำที่ต้องการได้แล้ว ก็จะมีคำถามต่อว่า..

จะต้องซื้อแท็งก์น้ำเพิ่มมั้ย? ขอบอกตรงนี้เลยว่า จำเป็นครับ เพราะ..

1. สามารถการเก็บสำรองน้ำประปาไว้ใช้งานในบ้าน กรณีที่น้ำไม่ไหลหรือมีเหตุฉุกเฉิน เช่น มีการปิดน้ำเพื่อเดินท่อประปา(ท่อเมนของการประปาฯ) หรือซ่อมท่อประปา เกิดอุบัติเหตุท่อส่งประปาแตกเสียหายทำให้ไม่สามารถส่งน้ำประปามาได้ หรือแม้กระทั่งไฟดับแล้วปั๊มน้ำไม่ทำงาน เราก็ยังคงมีน้ำสำรองจากแท็งก์น้ำไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
2. ช่วยพักน้ำ ช่วยให้มีการตกตะกอนของสิ่งแปลกปลอมที่อาจหลุดรอดเข้ามากับน้ำ (สิ่งแปลกปลอมอาจหลุดรอดเข้ามาในระหว่างทางที่มีการตัดต่อท่อประปาหรือมีการซ่อมท่อประปา ก่อนที่น้ำประปาจะมาถึงบ้าน)
3. ช่วยประหยัดค่าไฟได้ เนื่องจากเมื่อน้ำเต็มแท็งก์ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดปั๊มน้ำ ทำให้ปั๊มไม่ต้องทำงานตลอดเวลาที่ใช้น้ำ

การเลือกปั๊มน้ำและแท็งก์น้ำให้เหมาะสม ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟไปกว่าครึ่ง

แล้วต้องใช้แท็งก์น้ำขนาดเท่าไหร่ ?

โดยเฉลี่ยแล้ว หนึ่งคนจะใช้น้ำอยู่ที่ประมาณ 200 ลิตร/วัน/คน ซึ่งหมายความว่าแท็งก์น้ำก็ควรคิดจากปริมาณของสมาชิกในบ้านคูณด้วยปริมาณการใช้น้ำต่อวัน (เมื่อได้ผลลัพธ์แล้ว x ด้วย 2 อีกที เผื่อสำหรับน้ำไม่ไหลมากเกิน 1 วัน)

นอกจากการเลือกปั๊มน้ำและแท็งก์น้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยการันตีค่าไฟของปั๊มน้ำได้นั่นก็คือ .. “ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5”

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5  เป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านี้ มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

และตอนนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาของฉลาก ให้กลายเป็น “ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบติดดาว” ซึ่งมีมาตรฐานการประหยัดพลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นกว่าเดิม

ฉลากแบบเดิมแทนระดับการประหยัดไฟด้วยเลข 1-5 ยิ่งตัวเลขมีค่ามาก ก็จะยิ่งประหยัดไฟฟ้ามาก แต่สำหรับฉลากรูปแบบใหม่ จะต้องประหยัดเทียบเท่ากับเบอร์ 5 แบบเดิม และเพิ่มเติมคือดาว ตั้งแต่ 1 – 3 ดวง ⭐️⭐️⭐️

ดังนั้นถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเท่ากับเบอร์ 5 เดิม เข็มก็จะชี้อยู่ที่ “เบอร์ 5” และยิ่งเข็มชี้ไปที่ดาวจำนวนเท่าไร ก็ยิ่งประหยัดไฟมากขึ้นนั่นเองครับ

จากนี้เวลาเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่าลืมมองหาฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาวกันนะครับ จะได้เครื่องใช้ที่มีประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดค่าไฟด้วย

สุดท้ายที่ KIKAWA อยากฝากเคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับวิธีประหยัดค่าไฟของปั๊มน้ำให้กับทุกคน คือ

• ไม่เปิดปั๊มน้ำทิ้งไว้เมื่อไม่อยู่บ้าน หรือไม่ใช้งานนานๆ
• ปิดก๊อกน้ำให้สนิททุกครั้ง น้ำหยดเพียงเล็กน้อยติดต่อกันนานๆ ก็ทำให้ปั๊มน้ำเดินเครื่องได้
• ไม่เปิดก๊อกน้ำไปที่ระดับแรงสุด เพราะปั๊มน้ำจะทำงานหนัก และสิ้นเปลืองน้ำ
• ไม่ซักผ้าหรือล้างถ้วยชาม หรือล้างผลไม้โดยตรงจากก๊อกน้ำทีละชิ้น สิ้นเปลืองทั้งน้ำและไฟฟ้า
• เลิกใช้ปั๊มน้ำเพื่อใช้ในการฉีดน้ำรดต้นไม้ หรือสนามหญ้า ควรใช้น้ำจากการซักล้าง หรือหลีกเลี่ยงโดยต่อน้ำจากก๊อกน้ำปกติที่ไม่ต้องใช้ปั๊มน้ำ
• คอยดูแลรักษาท่อน้ำ หัวฝักบัว และอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ให้รั่วซึม เพราะปั๊มน้ำจะทำงานหนักมากขึ้น เปลืองไฟมากขึ้นตามไปด้วย
• เลือกปั๊มน้ำที่มีถังความดันประกอบสำเร็จเป็นชุด เพราะจะมีผลต่อการรักษาความดันของน้ำในการใช้งาน และช่วยประหยัดพลังงาน
• ติดตั้งระบบน้ำของปั๊มให้สามารถเก็บและจ่ายน้ำตามแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อลดการใช้พลังงานในการสูบน้ำภายในบ้าน เช่น ควรตั้งถังเก็บน้ำไว้ที่ชั้นบนสุดของบ้าน

หวังว่าเคล็ดแบบไม่ลับทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ทุกท่านประหยัดและลดค่าไฟภายในบ้านได้มากยิ่งขึ้นนะครับ และหากท่านใดกำลังมองหาปั๊มน้ำที่ทั้งเงียบ แถมช่วยประหยัดไฟ ปั๊มน้ำ KIKAWA รุ่น KQ – VZ Series ตอบโจทย์ทุกข้อเลยล่ะครับ

ปั๊มน้ำ KIKAWA รุ่น KQ-VZ Series (รุ่นน้ำร้อน) มีให้เลือกขนาดมอเตอร์ถึง 3 รุ่น 

รุ่น KQ – 200VZ

• กำลังมอเตอร์ 200 วัตต์
• เสื้อปั๊ม เหล็กหล่อ (FC250)
• ระยะส่ง 15 เมตร
• ระยะส่งสูงสุด 25 เมตร
• ปริมาณน้ำสูงสุด 60 ลิตร/นาที
• จุดใช้น้ำ 1 – 3 จุด
• แรงดันน้ำ 1.5 Kg/Cm²
• เหมาะสมกับบ้านทาวน์โฮม
• น้ำหนัก 9.5 Kg
• ระดับเสียง 55 dB
• ฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5
  

รุ่น KQ – 400VZ

• กำลังมอเตอร์ 400 วัตต์
• เสื้อปั๊ม เหล็กหล่อ (FC250)
• ระยะส่ง 20 เมตร
• ระยะส่งสูงสุด 28 เมตร
• ปริมาณน้ำสูงสุด 85 ลิตร/นาที
• จุดใช้น้ำ 1 – 6 จุด
• แรงดันน้ำ 2.0  Kg/Cm²
• เหมาะสมกับบ้านแฝด
• น้ำหนัก 11 Kg
• ระดับเสียง 55 dB
• ฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 (1 ดาว)
  

รุ่น KQ – 800VZ

• กำลังมอเตอร์ 800 วัตต์
• เสื้อปั๊ม เหล็กหล่อ (FC250)
• ระยะส่ง 25 เมตร
• ระยะส่งสูงสุด 37 เมตร
• ปริมาณน้ำสูงสุด 95 ลิตร/นาที
• จุดใช้น้ำ 1 – 9 จุด
• แรงดันน้ำ 2.5 Kg/Cm²
• เหมาะสมกับบ้านแฝด/บ้านเดี่ยว
• น้ำหนัก 14 Kg
• ระดับเสียง 58 dB
• ฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 (1 ดาว)

คุณสมบัติพิเศษ

• เงียบ ไร้เสียงรบกวน ด้วยระบบหลายใบพัด Multi-Stage Booster System
• แผงวงจรอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับสวิตซ์ควบคุมการไหล ของน้ำเพื่อให้น้ำแรงสม่ำเสมอเท่ากันทุกก๊อก
• สวิตซ์เพรสเชอร์รักษาระดับแรงดันน้ำ
• ถังเพชรเชอร์สแตนเลส เกรด A ปลอดสนิม 100%
• ระบบ Air-Charged
• มอเตอร์แบบ Dual Wiring
• มี Sensor ป้องกันมอเตอร์ไหม้
• ตัดอัตโนมัติเมื่อขาดน้ำและอุณหภูมิสูงผิดปกติ
• สามารถใช้ได้กับน้ำร้อนอุณหภูมิ 90 องศา (เฉพาะรุ่น VZ เท่านั้น*)

ปั๊มน้ำ KIKAWA รุ่น KQ-VZ Series

✅ ทำงานเงียบ! ด้วยระดับเสียงเพียง 55 – 58 เดซิเบล 

✅ รับประกันมอเตอร์ 10 ปี รับประกันอะไหล่ 2 ปี 

✅ น้ำไหลแรงเท่ากันทุกก๊อก มั่นใจในคุณภาพ และการรับประกันที่ยาวนาน

✅ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ KIKAWA เงียบ แรง มั่นใจ ได้น้ำแรงสม่ำเสมอทุกก๊อก ทุกการใช้งาน 

สามารถหาซื้อ ปั๊มน้ำ KIKAWA รุ่น KQ-VZ Series ได้ที่ สำนักงานใหญ่ / ออนไลน์ เลยครับผม 👍

ติดตามข่าวสารดีๆ และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปั๊มน้ำ KIKAWA เพิ่มเติมได้ที่:

🔵 Facebook: Kikawa Thailand ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ปั๊มน้ำเสียงเงียบ ปั๊มน้ำบ้าน 
🌐 Website: www.kikawathailand.com 

🟢 Line ID: @crgroupthailand

📱 Call Center: 02-026-6280